ทำไมอาหารเสริมรูปแบบเจลจึงดีกว่ารูปแบบอื่น

สาเหตุหลัก ๆ ของการที่อาหารเสริมรูปแบบเจลมีประสิทธิภาพมากกว่าอาหารเสริมรูปแบบอื่น ๆ มีเหตุผล 3 ประการดังนี้

การรับประทานสะดวกไม่ยุ่งยากเหมือนอาหารเสริมรูปแบบอื่น ๆ
ผลทางจิตวิทยาทำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์พึงพอใจในการรับประทานอาหารเสริม
สามารถดูดซึมสารอาหารเข้าไปใช้งานได้จริงโดยไม่เหลือตกค้าง

โดยจะขออธิบายรายละเอียดที่จะกล่าวต่อไปก็เพื่อเกิดความเข้าใจของเหตุผลทั้ง 3 ประการมากขึ้นดังนี้

การรับประทานสะดวกไม่ยุ่งยากเหมือนอาหารเสริมรูปแบบอื่น ๆ

บางคนอาจจะสงสัยว่าการทานอาหารเสริมที่เป็นเม็ดมันยุ่งยากตรงไหนก็แค่เอาอาหารเสริมใส่ปากแล้วกลืนน้ำตามก็จบแล้ว ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณกำลังคิดผิดเพราะการรับประทานอาหารเสริมให้ได้ประโยชน์จริง ๆ ต้องทานให้ถูกเวลาไม่เช่นนั้นสิ่งที่คุณกินเข้าไปอาจเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ โดยพื้นฐานอย่างน้อยคุณต้องทราบว่าวิตามินและแร่ธาตุแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

กลุ่มที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินซี วิตามินบีรวม และโฟเลต ซึ่งจะต้องรับประทานตอนท้องว่างและดื่มน้ำตามมาก ๆ ไม่อย่างนั้นจะไม่ดูดซึมแล้วจะขับออกทางปัสสาวะทำให้ไตทำงานหนัก
กลุ่มที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ วิตามินเค วิตามินอี และวิตามินดี ซึ่งจะต้องรับประทานพร้อมกับอาหารเพื่อให้ไขมันในอาหารช่วยดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และทานมากเกินไปก็ไม่ได้เพราะจะไปสะสมในตับแล้วเป็นผลเสียกับตับ

ดังนั้นจะเห็นว่าการทานอาหารเสริมโดยทั่วไปจะมีความยุ่งยากที่ต้องศึกษาเรื่องเวลาในการรับประทานพอสมควร และถ้าลืมทานวันไหนก็เลือกทานตอนนึกได้ชดเชยก็ไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดว่าต้องทานตอนท้องว่างหรือทานพร้อมอาหาร ถ้าทานผิดเวลาก็จะไม่ดูดซึมซึ่งเป็นผลเสียอีกต่างหาก

อาหารเสริมรูปแบบเจลสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ให้คุณได้ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเวลารับประทาน เพราะด้วยเทคโนโลยี Gel Suspension จะมีการดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว เพราะมี Gel Matrix ที่ช่วยในการดูดซึมสารอาหารทุกประเภท คุณจะทานก่อนอาหาร หลังอาหาร หรือตอนท้องว่างก็ได้ แนะนำให้ทานตอนท้องว่างจะดีที่สุด แต่ถึงจะทานในช่วงเวลาใกล้อาหารก็ยังดูดซึมได้ดีมากอยู่ดี ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมรับประทานแต่อย่างใด เพราะถ้าคุณลืมรับประทานแล้วคุณนึกได้คุณก็แค่หยิบมาฉีกซองแล้วรับประทานได้ทันที แบบไม่ยุ่งยากซองเดียวจบ จะทานเวลาไหนก็มีประสิทธิภาพในการดูดซึมไปใช้งานได้ดีเหมือนกัน

นอกจากเรื่องเวลาแล้วการทานวิตามินให้ได้ผลต้องทานเป็นชุดไม่ใช่ทานแบบเดี่ยว ๆ เพราะวิตามินบางตัวจะดูดซึมไปใช้งานได้ต้องมีวิตามินตัวอื่นมาช่วยเสริมตัวอย่างเช่น แคลเซียม ถ้าคุณกินเดี่ยว ๆ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว อาจจะเป็นโทษก่อให้เกิดหินปูนที่ไตหรือหลอดเลือดด้วยซ้ำ เพราะปกติแล้วการทานแคลเซียมต้องได้รับวิตามินดีควบคู่ไปด้วย ปัญหาก็คืออาหารเสริมเป็นเม็ด ๆ เขาขายแยกกัน โดยที่ผู้ใช้หลายคนอาจไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าวิตามินตัวไหนต้องทานร่วมกับอะไร ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วรู้ว่าอะไรมีความสัมพันธ์กับอะไรพอถึงเวลาจริง ๆ เมื่อจัดเป็นชุดออกมาก็มีปริมาณหลายเม็ดและต้องกินตามเวลาอย่างเคร่งครัดถึงจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ จะเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้วิตามินและเกลือแร่จริงเขาจะมีตลับยาจัดไว้เป็นชุดเป็นเวลาเลยว่า ชุดไหนทานเวลาไหน ซึ่งมีความลำบากเป็นอย่างยิ่ง และยิ่งถ้าคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจะทำอย่างไร จะทานแบบเดี่ยว ๆ ก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ ทานแบบเป็นชุดก็ไม่รู้จะจัดยังไง พอจัดออกมาแล้วก็ดูน่ากลัวมากเพราะดูเหมือนจะเยอะผิดปกติ

จะดีกว่าไหมถ้าคุณไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่มีคนจัดไว้ให้คุณแล้วโดยรวมสิ่งที่เกี่ยวข้องกันในอยู่ภายในซองเจลเพียง 1 ซองเท่านั้น เช่นถ้าคุณต้องการเสริมเรื่องการดูแลหัวใจและหลอดเลือดต้องใช้สารอาหารอะไรบ้างเขาก็รวมสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับการดูแลหัวใจและหลอดเลือดไว้อยู่ในซอง Agel HRT ซองเดียวครบทุกอย่างตามที่เหมาะสม ถ้าคุณต้องการได้รับวิตามินและเกลือแร่อย่างครบถ้วนในแต่ละวัน ก็มีการรวมวิตามินและเกลือแร่ที่เหมาะสมในแต่ละวันไว้ให้ในซองเดียวคือ Agel MIN เป็นต้น

คราวนี้เรามาลองเปรียบอาหารเสริมรูปแบบเจลกับรูปแบบผงกันว่ารูปแบบเจลสะดวกกว่าอย่างไร ความแตกต่างที่ชัดเจนก็คือเรื่องของการพกพา อาหารเสริมรูปแบบเจลคุณจะพกพาไปที่ทำงาน ไปนอกบ้าน ไปห้างสรรพสินค้า หรือที่ไหนก็ได้ ถึงเวลาก็แค่ฉีกซองดูดก็จบแล้ว แต่อาหารเสริมรูปแบบผงต้องเอามาชงโดยต้องมีการตวงว่าผงตัวนู๊นกี่ช้อน ผงอันนี้กี่ช้อน แล้วเทน้ำใส่ และเขย่า ซึ่งลำบากมากเพราะการจะชงกินแต่ละครั้งต้องมีอุปกรณ์หลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นช้อนตวง ถ้วยที่ใส่ผสม และต้องหาน้ำมาใส่อีก ไม่สะดวกกับการพกพาไปที่อื่น อีกอย่างการพกพาผงอาหารเสริมไปที่อื่นจะมีปัญหาเรื่องการเก็บรักษาเพราะถ้าเจอความชื้นเมื่อไหร่ ผงอาหารเสริมก็เสียหายได้ ผิดกับอาหารเสริมรูปแบบเจลที่เขาแบ่งเป็นซอง ๆ ให้ และบรรจุในซองแยกไว้อย่างดีดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าอาหารเสริมที่อยู่ในซองจะเสียหาย

สุดท้ายเราลองมาเปรียบเทียบอาหารเสริมรูปแบบเจลกับแบบน้ำกันว่า แบบเจลดีกว่าแบบน้ำยังไง อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วว่ารูปแบบเจลสะดวกยังไง แล้วทำไมแบบน้ำถึงไม่สะดวกเหมือนแบบเจล สิ่งแรกเลยแบบน้ำเขาจะให้มาเป็นขวดการรับประทานแต่ละครั้งต้องมีการตวงในปริมาณที่เหมาะสมถึงจะรับประทานได้ ในขณะที่แบบเจลเขาแบ่งเป็นซอง ๆ เสร็จ เพื่อใช้รับประทานในแต่ละครั้งไม่ต้องมาคอยตวงเอง ถ้าพูดถึงการพกพาไปรับประทานนอกบ้าน รูปแบบน้ำก็ต้องตวงใส่ภาชนะที่เหมาะสมไป หรือไม่ก็ต้องเอาไปทั้งขวดก็เป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควร เพราะอาหารเสริมแบบน้ำที่มีคุณภาพโดยส่วนใหญ่ต้องใส่ขวดแก้วเพราะสารอาหารบางตัวมีความเป็นกรดอ่อน ๆ จึงไม่เหมาะขวดพลาสติก นอกจากจะต้องพกขวดแก้วแล้วยังอาจจะต้องพกถ้วยตวงไปอีกด้วย รวมถึงต้องระวังเรื่องการหกเลอะเทอะอีกต่างหากจึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ในขณะที่แบบซองเขาแบ่งเป็นซอง ๆ ให้แล้ว จึงพกพาไปได้สะดวกมากกว่า ที่สำคัญอีกประการคือการเก็บรักษาหรือนำอาหารเสริมรูปแบบน้ำออกไปรับประทานนอกบ้าน ต้องมีเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมเช่นเก็บในตู้เย็น เพราะว่าอาหารเสริมรูปแบบน้ำเขาให้มาเป็นขวดใหญ่แล้วให้มาตวงเป็นครั้ง ๆ พอเปิดขวดทานครั้งแรกแล้วส่วนที่เหลือที่เก็บไว้ทานครั้งต่อ ๆ ไปต้องแช่ไว้ในตู้เย็นไม่งั้นอาหารเสริมรูปแบบน้ำอาจจะบูดได้ ถ้าหากว่าอาหารเสริมรูปแบบน้ำที่ไม่ต้องเก็บในตู้เย็นก็จะมีข้อเสียอีกอย่างนึงทดแทนคือต้องใส่สารกันบูดในปริมาณที่มากซึ่งก็ไม่เป็นผลดีกับผู้บริโภค แต่ถ้าเป็นรูปแบบเจลเขาแบ่งเป็นซอง ๆ ให้ แต่ละซองมีการป้องกันคุณภาพไว้อย่างดี คุณก็ไม่ต้องระวังเรื่องอุณหภูมิการเก็บรักษามากนัก แค่อย่าเอาไปตากแดดเป็นเวลานาน ๆ ก็พอแล้ว ทำให้รูปแบบเจลเก็บรักษาง่ายกว่ามาก การแบ่งเป็นซอง ๆ ทำให้คุณฉีกรับประทานทีซอง โดยไม่มีผลกระทบกับซองอื่นที่ยังไม่ได้ฉีก อีกอย่างก่อนรับประทานอาหารเสริมรูปแบบน้ำต้องมีการเขย่าขวดก่อนเพราะสารอาหารบางประเภทจะตกตะกอนจมอยู่ก้นขวด ถ้าไม่เขย่าขวดก่อนทาน หรือเขย่าบ้างไม่เขย่าบ้าง ปริมาณสารอาหารที่ได้รับในแต่ละครั้งจะไม่คงที่ แต่อาหารเสริมรูปแบบเจลเขาแบ่งเป็นซองให้ ทุกซองที่คุณรับประทานจึงได้รับสารอาหารที่คงที่แน่นอน

จะเห็นได้ว่าการทานอาหารเสริมใคร ๆ ก็กินได้ แต่ถ้าจะกินแล้วเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจริง ๆ นั้นมีความลำบากมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด เทคโนโลยี Gel Suspension จึงได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยลดความยุ่งยากในการรับประทานเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่าย รับประทานง่าย ได้รับสารอาหารที่คงที่ และสามารถเอาสารอาหารไปใช้งานได้จริง ๆ

ผลทางจิตวิทยาทำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์พึงพอใจในการรับประทานอาหารเสริม

มีคนจำนวนมากที่รู้สึกว่ากลืนยาแบบเม็ด ๆ เป็นเรื่องลำบากใจ บางคนแค่เห็นอะไรที่เป็นเม็ด ๆ ก็ไม่อยากกินแล้ว บางคนอาจจะไม่ได้รู้สึกลำบากใจในการกลืนยาแบบเม็ด ๆ แต่ถ้าให้ต้องกินอะไรที่เป็นเม็ด ๆ ทุกวัน ก็จะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนป่วย ทั้งที่จริง ๆ สิ่งที่รับประทานเป็นอาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค หรือแม้แต่การที่ต้องรับประทานอะไรที่เป็นเม็ด ๆ ให้คนในสังคมเห็นบ่อย ๆ อาจทำให้ดูภาพลักษณ์เหมือนเป็นคนป่วย ทั้งที่จริง ๆ เป็นคนรักสุขภาพ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้คนไม่อยากรับประทานอาหารเสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ด แล้วยิ่งถ้าต้องทานเป็นชุดเพื่อให้ได้ผลยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกต่อต้านและไม่กล้ารับประทาน สุดท้ายแม้จะมีความตั้งใจที่ดีตอนเริ่มต้น แต่พอรับประทานไปนาน ๆ ก็จะรู้สึกเริ่มท้อและหยุดรับประทานไปในที่สุด

จะดีกว่าไหมถ้ามีอาหารเสริมที่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากยา ทำให้ผู้รับประทานไม่ได้รู้สึกว่าเป็นยา แต่เป็นอาหารเสริมจริง ๆ สามารถรับประทานได้ง่ายโดยไม่รู้สึกอึดอัดใจ และเปลี่ยนภาพลักษณ์จากคนขี้โรคให้เป็นคนรักสุขภาพในมุมมองของคนในสังคม อาหารเสริมรูปแบบเจลสามารถตอบโจทย์ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี เพราะอยู่ในรูปลักษณ์แบบใหม่ที่ทันสมัยแตกต่างจากยาเม็ด ๆ โดยสิ้นเชิง รับประทานง่ายกลืนง่ายไม่จำเป็นต้องทานน้ำตาม และการที่รับประทานให้ได้ผลไม่จำเป็นต้องทานแบบหลายเม็ด แค่ทานแบบซองเดียวก็จบแล้วดูไม่เยอะจนเกินไป ในแต่ละซองได้รวมสิ่งที่จำเป็นไว้ครบถ้วนเพื่อตอบโจทย์กับผู้ใช้ สะดวกในการรับประทานมาก ๆ ทำให้ผู้ใช้รับประทานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกท้อ และการรับประทานให้คนในสังคมเห็นก็มีภาพลักษณ์ที่ดูดีมีความมั่นใจในการรับประทานมากขึ้น จึงมีกำลังใจเพื่อที่ปฏิบัติตามความตั้งใจในการดูแลสุขภาพที่มีไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

สามารถดูดซึมสารอาหารเข้าไปใช้งานได้จริงโดยไม่เหลือตกค้าง

ปัญหาสำคัญของอาหารเสริมในปัจจุบันคือการรับประทานอาหารเสริมแล้วร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารเหล่านั้นไปใช้ได้มากแค่ไหน แล้วส่วนที่ไม่สามารถดูดซึมได้จะมีผลอย่างไรต่อร่างกายของเรา

อาหารเสริมรูปแบบเม็ดและแคปซูลต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้ละลายในกระเพาะอาหารเป็นหลัก ก่อนถึงกระเพาะอาหารจะไม่สามารถดูดซึมไปใช้งานได้ จากงานวิจัยพบว่าอาหารเสริมรูปแบบเม็ดและแบบแคปซูลที่ผลิตได้อย่างมีคุณภาพสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ไม่ถึง 50% เท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องขับออกจากร่างกายซึ่งเป็นภาระให้กับตับและไต แล้วถ้าอาหารเสริมแบบเม็ดที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานหรือมีอัตราการดูดซึมต่ำก็ยิ่งพบปัญหามากขึ้นไปอีก เพราะบางทีรับประทานเข้าไปแล้วอาหารเสริมไม่ละลายแล้วต้องขับออกมา

อาหารเสริมรูปแบบผงจะต้องมีการละลายน้ำก่อนรับประทาน ทำให้รูปแบบผงจะดูดซึมได้ดีเฉพาะสารอาหารที่ใช้น้ำพาสารอาหารเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น แต่ถ้าเป็นสารอาหารกลุ่มที่ต้องละลายในไขมันเพื่อดูดซึม รูปแบบผงจะมีอัตราการดูดซึมที่ต่ำมาก ๆ

อาหารเสริมรูปแบบน้ำนอกจากจะมีปัญหาเรื่องการดูดซึมของสารอาหารกลุ่มที่ต้องละลายในไขมันแล้ว ยังมีเรื่องความไม่คงที่ในปริมาณสารอาหารที่ได้รับในแต่ละครั้งด้วย เพราะสารอาหารอาจมีการตกตะกอนอยู่ก้นขวด ก่อนดื่มแต่ละครั้งต้องมีการเขย่าขวด ถ้าเขย่าไม่ดีหรือลืมเขย่า ก็ทำให้แต่ครั้งที่ดื่มก็จะได้รับสารอาหารไม่คงที่

นอกจากรูปแบบของอาหารเสริมอีกปัจจัยนึงคือสุขภาพและอายุของผู้ใช้อาหารเสริม ผู้ใช้อาหารเสริมที่อายุมากหรือมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารก็จะดูดซึมสารอาหารได้ในอัตราที่ต่ำลง ประโยชน์ที่ได้รับจากอาหารเสริมทั่วไปย่อมน้อยลง แต่จะมีภาระให้กับตับและไตทำงานหนักมากขึ้น

จะดีกว่าหรือไม่ถ้ามีอาหารเสริมในรูปแบบใหม่ที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เกือบ 100% ไม่ว่าคุณจะมีสุขภาพอย่างไรอายุเท่าไหร่ก็สามารถดูดซึมไปใช้ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งอาหารเสริมรูปแบบนั้นก็คือคือรูปแบบเจล ด้วยเทคโนโลยี Gel Suspension ที่เอาสารอาหารไปแขวนลอยไว้ใน Gel Matrix ซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณรับประทานเข้าไปก็เริ่มดูดซึมได้จากลิ้น หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และดูดซึมมาที่สุดในส่วนที่เป็นลำไส้เล็ก ไม่ว่าคุณจะรับประทานเวลาไหม อายุเท่าไหร่ Gel Matrix ก็เป็นตัวนำพาสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้ดีมาก มีตัวอย่างงานวิจัยทั้งต่างประเทศและในประเทศไทยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Gel Suspension เปรียบเทียบการดูดซึมของอาหารเสริมรูปแบบเม็ดและรูปแบบเจลดังนี้

การทดสอบของ Mayo Clinic ที่ Rocheser รัฐ Minnesota เพื่อทดสอบการดูดซึมเข้าสุ่ร่างกายของอาหารเสริมรูปแบบเจลเปรียบเทียบกับรูปแบบ Capsules โดยแกนนอนคือระยะเวลาหลังที่ได้รับอาหารเสริม ส่วนแกนตั้งเป็น %ของสารอาหารที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในช่วงเวลาต่าง ๆ จากผลการทดสอบพบว่าภายใน 48 ชั่วโมงอาหารเสริมรูปแบบเจลจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายใน 2 ชั่วโมงแรกได้น้อยกว่า 5% ชั่วโมงที่ 2 -4 ดูดซึมได้ 10%-15% ชั่วโมงที่ 4-8 ดูดซึมได้ 25%-30% ชั่วโมงที่ 8 – 24 ดูดซึมได้ 25%-30% และชั่วโมงที่ 24 – 48 ดูดซึมได้ 15%-20% เมื่อรวมกันในทุกชั่วโมงแล้วดูดซึมได้เกือบ 100% ในขณะที่อาหารเสริมรูปแบบ Capsules ดูดซึมรวมกันในทุกช่วงเวลาภายใน 48 ชั่วโมงได้ไม่ถึง 50% และที่เหลือต้องขับออกจากร่างกายซึ่งทำให้ตับและไตทำงานหนัก โดยใน 2 ชั่วโมงแรกอาหารเสริมรูปแบบเจลดูดซึมได้มากกว่าแบบ Capsules 1.4 เท่า ชั่วโมงที่ 2-4 ดูดชึมได้ดีกว่า 5 เท่า ชั่วโมงที่ 4-8 ดูดซึมได้ดีกว่า 3.6 เท่า และชั่วโมงที่ 8-24 ดูดชึมได้ดีกว่า 1.9 เท่า

การทดสอบของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในโครงการวิจัย วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สำนักเวชศาสตร์ชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ ได้ทำการเปรียบเทียบวิตามินซีแบบอัดเม็ดแข็งมาตรฐาน กับวิตามินซีที่แขวนลอยอยู่ Gel Matrix (แซนแทรนกัมและกัวร์กัม) โดยวัดระดับวิตามินในกระแสเลือดหลังจากรับประทาน จะพบว่าภายในระยะเวลา 360 นาทีหลังจากรับประทาน วิตามินซีในรูปแบบเจลสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่ารูปแบบเม็ดแข็งมาตรฐานถึง 5 เท่า

ด้วยคุณสมบัติการดูดซึมที่ดีมากของเทคโนโลยี Gel Suspension ทำให้ใส่สารอาหารเข้าไปในปริมาณที่จำเป็นเท่านั้น เพราะสารอาหารที่ใส่เข้าไปสามารถดูดซึมเอาไปงานเกือบ 100% และสามารถใส่สารอาหารหลายชนิดที่มีความเกี่ยวข้องกันเข้าไปในซองเดียวได้ ทำให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีความสะดวกและได้ประโยชน์จากสารอาหารอย่างแท้จริง มีส่วนเหลือที่ขับทิ้งออกมาจากร่างกายน้อยมาก

ในขณะที่อาหารเสริมรูปแบบอื่น ๆ เช่น เม็ด ผง หรือน้ำ มีความจำเป็นต้องใส่สารอาหารให้มากเกินความจำเป็นเพื่อหวังว่าส่วนที่ดูดซึมเข้าไปได้จะมีปริมาณที่เพียงพอ แต่ผลเสียก็ทำให้เป็นภาระของร่างกายที่ต้องขับส่วนเกินออกไปและไม่สามารถอัดสารอาหารที่เกี่ยวข้องกันหลายประเภทเข้าไปอยู่ด้วยกันได้ ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จึงต้องทำการศึกษาและจัดอาหารเสริมเป็นชุด ๆ ชุดละหลาย ๆ เม็ด จึงไม่สะดวกในการใช้งาน

สรุปรายละเอียดของเทคโนโลยีเจล

เทคโนโลยีเจลช่วยปฏิวัติวงการอาหารเสริมเพื่อให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์สะดวกมากขึ้นในการรับประทาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อรับประทานไปแล้วก็สามารถดูดซึมเข้าไปใช้งานได้จริงเกือบ 100% ไม่เป็นภาระต่อร่างกายที่ต้องขับส่วนเกินออก

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Gel Plus ( Agel ) ไม่ได้คิดค้นสารอาหารพิเศษตัวใหม่ แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นเอาสารอาหารที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมาแขวนลอยใน Gel Matrix เพื่อให้รับประทานได้สะดวกและดูดซึมได้ดีกว่าเดิม เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นเรื่องการลำเลียงสารอาหารเข้าสู่ร่างกายให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงนำสารอาหารที่มีความเกี่ยวข้องกันมารวมกันไว้ในซองเดียวเพื่อลดความยุ่งยากของผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจ

ผลิตภัณฑ์ Gel Plus ( Agel ) ทั้งหมด

ผลิตภัณฑ์ Gel Plus ( Agel ) ทุกตัว เราขายให้คุณที่ราคาสมาชิก โดยที่คุณไม่ต้องสมัครสมาชิกแต่อย่างใด ราคาที่ระบุจึงเป็นราคาสมาชิกแล้ว

Gel Plus EXO

( Agel EXO )

ราคาสมาชิกต่อกล่อง

2,980 บาท

(1 กล่องมี 30 ซอง)

สั่งซื้อสินค้า

เลขที่ อ.ย. 10-3-35761-5-0010

สกัดจากผลไม้หายาก 17 ชนิด ให้ได้สารต่อต้านอนุมูลอิสระกว่า 1000 ชนิด เพื่อช่วยดูแลผิวพรรณ ผิวสวย หน้าใส ขาวเด้ง ทำให้แลดูอ่อนกว่าวัย

วีดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ Gel Plus EXO ( Agel EXO )

ผลลัพธ์ในวีดิโอเป็นประสบการณ์เฉพาะบุคคล… ผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ Gel Plus ( Agel ) เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลสุขภาพเท่านั้น ไม่มีผลในป้องกันหรือรักษาโรค

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Gel Plus MIN

( Agel MIN )

ราคาสมาชิกต่อกล่อง

2,480 บาท

(1 กล่องมี 30 ซอง)

สั่งซื้อสินค้า

เลขที่ อ.ย. 10-3-35761-5-0017

ผลิตภัณฑ์ Gel Plus VIS ( Agel SEE ) คือผลิตภัณฑ์ที่นำเอาสารอาหารที่บำรุงสายตาทั้งหมด 11 ชนิดมารวมไว้อยู่ซองเดียว เรียกได้ว่าถ้าอยากดูแลหรือบำรุงสายตาแค่ Gel Plus VIS วันละซองก็พอ ไม่ต้องยุ่งยากไปหาอย่างอื่นมาเพิ่มอีกแล้ว

วีดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ Gel Plus VIS ( Agel SEE )

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ติดต่อตัวแทนจำหน่ายได้ที่

Line ID: @gelhealthy

หรือโทร 089-810-8500 คุณแอ๊ค

โปรโมชันเด็ด ๆ จากเรา

สำหรับท่านใดที่ต้องการสมัครสมาชิกกับบริษัทด้วยตัวเองเพื่อซื้อตรงกับบริษัทก็สามารถทำได้โดยกดปุ่มด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดขั้นตอนการสมัคร

วิธีการสมัครสมาชิก